Embracing the Future: What Digital Transformation Really Means for Asian Businesses
The world of business is undergoing a powerful shift—and it’s happening faster in Asia than ever before. From retail and manufacturing to banking and logistics, companies across countries like Thailand, Vietnam, and Malaysia are realizing that traditional methods are no longer enough. Customers demand faster service, better experiences, and more transparency. To meet these rising expectations while staying competitive and profitable, organizations must go beyond basic IT upgrades.
This is where Digital Transformation comes in—not as a buzzword, but as a long-term journey to rewire how a company operates, creates value, and makes decisions. It’s not about launching a new app or buying a new CRM system. It’s about building a future-ready business that uses technology, data, and new ways of working to continuously improve.
Why Now? Why Digital?
In Asia, companies are reaching a critical point. Markets are growing, competition is intensifying, and digital-native startups are redefining what customers expect. In Thailand, for instance, traditional banks are now competing with fintech apps that offer lightning-fast services. Manufacturers are being challenged to modernize their plants using IoT and automation to stay cost-efficient.
So the question isn’t “Should we transform digitally?”, but “How can we do it right—and fast enough?”
6 Building Blocks for a Successful Digital Transformation
From experience across industries, six essential capabilities have emerged as must-haves for any company looking to win in the digital age:
- Purpose-Driven Strategy
Start with business value. What outcomes do you want—lower cost, better customer experience, faster speed? Focus on specific areas (such as onboarding, logistics, or customer service) and align your transformation goals to these domains. - Digital Talent You Own
Outsourcing everything won’t work long-term. You need in-house teams—engineers, data analysts, product managers—who understand both your business and the tech. Recruiting is only part of the equation; you also need to train, retain, and support these people. - Scalable Ways of Working
Traditional silos won’t support digital growth. Companies need agile, cross-functional teams that work like startups—fast, iterative, and focused on outcomes. This may require a new operating model: digital factories, product teams, or enterprise agility. - Empowered Technology Teams
Tech should not be a bottleneck. Give teams the tools and freedom to build, test, and deploy their own digital solutions. This requires good platforms, flexible APIs, and access to modern development tools. - Easy Access to Reliable Data
Decisions are only as good as the data behind them. Make sure all teams have access to accurate, real-time data through a strong data infrastructure and governance model. - Adoption & Change Management
Even the best tools will fail if people don’t use them. Invest as much in training and user experience as you do in building tech. Plan for adoption early—change needs to be managed, not assumed.
Focus on Domains, Not Just Use Cases
Many companies make the mistake of digitizing only isolated steps—like building an online form or automating a report. While useful, this rarely leads to real transformation.
Instead, think in domains. For example, improving customer onboarding isn’t just about a sign-up form. It also involves identity verification, background systems, workflow approvals, and post-onboarding support. By transforming the full domain—not just one step—you unlock far more value.
Real Examples from Southeast Asia
Here are just a few real-world examples of how companies in Thailand and neighboring countries are putting these principles into action:
- Thai bank launched a digital factory that reduced app development cycles from 6 months to 6 weeks.
- Manufacturing company in Rayong integrated IoT into its production lines, cutting machine downtime by over 25%.
- Insurance company introduced AI-powered claim assessments, reducing approval time from 3 days to a few hours.
These aren’t just IT upgrades—they’re business model shifts. Each success came from strong leadership, focused domains, and empowered digital teams.
Final Thought: Becoming Digital Is the Goal
Digital transformation isn’t about using the latest tools. It’s about thinking, working, and leading in a new way—one that’s faster, smarter, and customer-focused. For executives in Asia—especially those in roles like CEO, COO, CIO, Head of Supply Chain, or Transformation Lead—now is the time to lead this journey. It’s not just about IT. It’s about the future of your business.
ก้าวสู่อนาคต: Digital Transformation สำคัญอย่างไรกับธุรกิจในไทยและเอเชียใต้
โลกธุรกิจกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก โรงงานอุตสาหกรรม ธนาคาร ไปจนถึงโลจิสติกส์ เราจะเห็นว่าการทำธุรกิจแบบเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ลูกค้าต้องการบริการที่เร็วขึ้น สะดวกขึ้น และมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ดังนั้น หากองค์กรต้องการแข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือ “กลยุทธ์หลักขององค์กร”
Digital Transformation หรือ “การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล” ไม่ใช่แค่การลงระบบใหม่ หรือสร้างแอปพลิเคชัน แต่มันคือการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่วิธีคิด วิธีทำงาน และการสร้างคุณค่าให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยี ข้อมูล และทีมงานแบบใหม่ และต้องเข้าใจว่า นี่ไม่ใช่โครงการระยะสั้น แต่เป็น “การเดินทางระยะยาว” ที่ผู้บริหารต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน
ทำไมต้องเปลี่ยนตอนนี้? ยังทันการเปลี่ยนแปลงไหม
ในหลายประเทศเอเชีย ตลาดกำลังเติบโต แต่การแข่งขันก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน เช่นในประเทศไทย ธนาคารดั้งเดิมกำลังเผชิญการแข่งขันจากแอปการเงินและฟินเทคที่ให้บริการเร็วกว่า ถูกกว่า และตอบโจทย์ผู้บริโภคมากกว่า ขณะที่โรงงานผลิตก็ต้องเร่งนำระบบ IoT หรือ Automation มาใช้ เพื่อรักษาต้นทุนให้แข่งขันได้
คำถามจึงไม่ใช่แค่ว่า “จะเปลี่ยนดีไหม” แต่คือ “เราจะเปลี่ยนทันหรือเปล่า?”
6 พื้นฐานสำคัญที่ทำให้ Digital Transformation สำเร็จ
จากประสบการณ์ขององค์กรชั้นนำในหลายอุตสาหกรรม พบว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ได้ผล ต้องอาศัย 6 ความสามารถหลักดังนี้: ลองประเมิน
- คุณมีกลยุทธ์ที่ชัด และเน้นผลลัพธ์ทางธุรกิจ
ไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยี แต่ต้องรู้ว่าใช้ไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อลดต้นทุน เพิ่มความเร็ว หรือยกระดับประสบการณ์ลูกค้า โดยโฟกัสใน “โดเมน” ที่สำคัญ เช่น การจัดส่ง การสมัครลูกค้า หรือระบบหลังบ้าน - ตุณมีทีมงานดิจิทัลของตัวเอง ไม่พึ่ง Outsource อย่างเดียว
ต้องสร้างทีมที่เข้าใจทั้งธุรกิจและเทคโนโลยี เช่น นักวิเคราะห์ข้อมูล วิศวกรซอฟต์แวร์ หรือ Product Owner พร้อมระบบการฝึกอบรม และดูแลคนเก่งให้อยู่กับองค์กรได้ระยะยาว - บริษัทได้ปรับรูปแบบการทำงานให้รองรับการขยายผลทั้งองค์กร
สร้างทีม cross-functional ที่ทำงานแบบ Agile ได้จริง มีความยืดหยุ่น และสามารถนำไปใช้ซ้ำในหลายฝ่าย เช่น โมเดล Digital Factory หรือ Enterprise Agility - บริษัทให้แต่ละทีมสามารถใช้เทคโนโลยีได้เอง (ไม่ติดขั้นตอนเยอะ)
ทีมต้องสามารถเข้าถึงเครื่องมือ ข้อมูล และระบบที่ช่วยให้พัฒนาและทดสอบไอเดียใหม่ ๆ ได้เอง เช่น ระบบ API, เครื่องมือ DevOps หรือบริการ Cloud - คนส่วนใหญ่เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และมีคุณภาพ
ข้อมูลต้องเป็นปัจจุบัน ถูกต้อง และใช้งานได้จริง โดยไม่ต้องรอฝ่าย IT เสมอ สร้างระบบ data governance ที่ดี และใช้แนวคิด “data product” เพื่อให้ทุกแผนกใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ - มีการบริหารการเปลี่ยนแปลง และผลักดันการใช้งานจริง
ระบบจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าคนไม่ใช้ ดังนั้นต้องวางแผนเรื่องการใช้งาน (Adoption) ตั้งแต่ต้น พร้อมฝึกอบรม ทดลอง รับฟังเสียงจากผู้ใช้งาน และปรับปรุงต่อเนื่อง
อย่าดูแค่รายจุด ให้เปลี่ยนแบบ “ยกโดเมน”
หลายองค์กรเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ เช่น ทำแชทบอท ติดตั้งฟอร์มออนไลน์ ซึ่งอาจดูดีในตอนแรก แต่หากไม่ได้เปลี่ยนทั้งกระบวนการ ผลที่ได้ก็จะจำกัด
แนวทางที่ได้ผลมากกว่าคือการเปลี่ยนทั้ง “โดเมน” เช่น หากจะปรับปรุงการเปิดบัญชีลูกค้าออนไลน์ ก็ต้องเปลี่ยนทั้งเรื่องการยืนยันตัวตน ระบบหลังบ้าน การส่งเอกสาร และการติดตามผล จึงจะได้ประสบการณ์ที่ดี และประหยัดเวลาจริง
ตัวอย่างจริงในประเทศไทยและเอเชีย
- ธนาคารไทยรายหนึ่ง สร้าง Digital Factory ช่วยลดรอบการพัฒนาแอปจาก 6 เดือน เหลือเพียง 6 สัปดาห์
- โรงงานผลิตชิ้นส่วนในระยอง ใช้ IoT เชื่อมกับระบบ ERP ลด Downtime ได้กว่า 25%
- บริษัทประกันใช้ AI ช่วยประเมินการเคลม ทำให้อนุมัติได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาเป็นวัน
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่การติดตั้งระบบใหม่ แต่คือการ “คิดใหม่ ทำใหม่” และสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ทั้งหมด
เป้าหมายไม่ใช่แค่ใช้เทคโนโลยี แต่คือ “กลายเป็นองค์กรดิจิทัล”
Digital Transformation ไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องมือใหม่ แต่คือการปรับวิธีคิด วิธีทำงาน และวิธีบริหารองค์กร ให้ทันกับยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
สำหรับผู้บริหารในเอเชีย โดยเฉพาะ CEO, COO, ผู้จัดการฝ่ายไอที หัวหน้าฝ่ายซัพพลายเชน หรือ Transformation Lead ตอนนี้คือเวลาที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง เพราะ “ใครเริ่มก่อน มีโอกาสนำ”
แน่นอนครับ ด้านล่างคือ คำแปลภาษาจีน (简体中文) ของบทความ Digital Transformation ฉบับที่เรียบเรียงใหม่ ซึ่งเน้นให้เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับผู้บริหารในเอเชีย รวมถึงสามารถใช้ในบริบทขององค์กรในไทย จีน หรือประเทศใกล้เคียงได้:
所谓的数字化转型（Digital Transformation），并不只是上线一款新软件或开发一个手机应用，而是全面“重构”企业的运营方式，从思维模式、工作流程到价值创造方式，借助技术、数据和新型团队协作，不断优化和进化。这不是一个短期项目，而是一场长期变革之旅，需要企业高层持续推动和参与。
为什么“现在”是转型的最佳时机？
在亚洲，市场在快速扩张，但竞争也日趋激烈。例如在泰国，传统银行正在面临金融科技（FinTech）应用的强势挑战，后者能够提供更快速、更低成本、更贴近用户的服务；而制造企业也被迫引入物联网（IoT）和自动化系统，来提高效率并降低成本。
所以问题已不再是：“我们要不要转型？” 而是：“我们能不能赶得上变化的节奏？”
成功转型的 6 项关键能力
根据《Rewired：麦肯锡数字与人工智能时代竞争指南》一书的建议，企业若要实现成功的数字化转型，需具备以下六项核心能力：
- 聚焦业务价值的清晰战略
转型不是为“数字化”而数字化，而是为了解决业务痛点。例如改善客户体验、降低运营成本、提升响应速度等。聚焦于关键领域（如客户服务、供应链、财务流程等）尤为重要。 - 打造自有的数字人才队伍
外包并不能带来真正的数字竞争力。企业需要拥有自己的工程师、数据分析师、产品经理等数字人才，并为他们提供培训、激励机制和良好的工作氛围。 - 可扩展的运营模式
要实现跨部门协作，必须打破传统职能墙，采用敏捷的跨职能团队（Cross-Functional Teams），可以是“数字工厂”模式、产品与平台模式，或是企业级敏捷体系。 - 技术架构应赋能一线团队创新
让各团队能够自由获取所需工具、数据和平台，自主设计和测试数字解决方案，提升创新效率。包括灵活使用 API、自动化基础设施、迁移关键业务至云端等。 - 实时、可访问的数据系统
决策依赖于高质量数据。企业需建立统一、稳定的数据架构和治理机制，确保所有团队都能便捷地访问、分析和使用数据。 - 重视变革管理和用户采用率
再好的系统若没有人使用，也无法产生价值。需从转型初期就规划用户培训、流程调整与持续反馈，推动真正落地。
转型“领域”，而不是“单点”
许多企业常犯的错误是：只改善某一个小点，例如上线一个新表单或引入一个机器人客服。这种“点状”优化效果有限。
更有效的做法是转型整个“领域（Domain）”。例如要优化开户流程，就不仅是上线开户界面，更要包括身份验证、系统对接、资料审核、通知发送等所有环节。只有从整体出发，才能真正提升用户体验与运营效率。
亚洲地区的真实案例
以下是亚洲企业（以泰国为例）正在实践数字化转型的案例：
- 一家泰国银行组建数字工厂（Digital Factory），将 App 开发周期从 6 个月缩短至 6 周。
- 位于罗勇的制造企业引入物联网，实时监控设备状态，设备故障率下降 25%。
- 一家保险公司采用 AI 辅助理赔流程，使理赔时间从 3 天压缩至数小时内完成。
这些都不是简单的 IT 项目，而是涉及业务、技术、组织全面变革的战略举措。
总结：真正的目标不是“用技术”，而是“成为数字化企业”
数字化转型不是采购几套系统，也不仅是技术部门的事情，而是一场全企业的变革。它要求管理层改变思维方式，推动组织变革，并持续优化流程和绩效。
对亚洲企业的高管来说，尤其是 CEO、COO、CIO、供应链负责人或转型主管，现在正是引领企业变革的关键时机。谁能率先行动，谁就能在未来的竞争中抢占先机。
未来へ踏み出す：なぜデジタルトランスフォーメーションがアジア企業に不可欠なのか？
現在、ビジネスの世界は急速に変化しています。特にアジアでは、変化のスピードがますます加速しています。小売業、製造業、金融業、物流など、あらゆる業界で「今まで通りのやり方」では対応できない時代になってきました。お客様は、より速く、便利で、パーソナライズされたサービスを期待しています。
こうした期待に応え、コストを抑え、競争に勝ち抜くには、単なるIT導入を超えた「デジタルトランスフォーメーション（DX）」が必要です。それは、アプリを作ることや新しいシステムを導入することではありません。企業の考え方、仕事の仕組み、価値の生み出し方を根本から再構築することを意味します。
そして、これは一度やって終わりではなく、長期的な変革の旅です。経営陣が中心となって、継続的に導いていく必要があります。
なぜ「今」デジタル化が必要なのか？
アジアの多くの国々では市場が急成長していますが、それに伴い競争も激化しています。例えばタイでは、伝統的な銀行が、よりスピーディーで安価なサービスを提供するフィンテック企業に押されつつあります。製造業でも、IoTや自動化技術を導入しないとコストや納期の面で競争力を保てません。
だからこそ、企業はこう自問する必要があります：
「我が社はこの変化に間に合うのか？」
マッキンゼーの調査によると、世界の企業の90%以上が何らかのデジタルトランスフォーメーションを進めているそうです。つまり、「変革を始めていない」こと自体が、すでに競争で出遅れている可能性があるのです。
成功するための6つの重要な能力
デジタルトランスフォーメーションを成功させるには、以下の6つのコア能力が必要です：
- 明確で価値に焦点を当てた戦略
ただ「デジタル化する」のではなく、「なぜそれをやるのか」「どこで成果を出したいのか」を明確にします。たとえば、顧客サービス、サプライチェーン、経理処理など、重要な業務領域（ドメイン）を中心に改善を行うべきです。 - 社内のデジタル人材の育成と確保
外部委託だけでは真のデジタル力は得られません。自社にエンジニアやデータ分析担当者、プロダクトマネージャーなどの専門チームを持ち、育成し、定着させる仕組みが必要です。 - スケール可能な業務モデルの構築
部門間の壁を越えて協力できる「クロスファンクショナルチーム（横断型チーム）」や、アジャイルな働き方が求められます。デジタルファクトリー、プロダクト・プラットフォーム型モデルなどが有効です。 - チームが自律的に技術を使える環境の整備
全ての開発や改善をIT部門に頼らず、現場チームが自分たちでツールやデータにアクセスできる環境が必要です。APIの活用やクラウド移行もその一部です。 - 信頼できるデータへのアクセス性
リアルタイムかつ正確なデータが、意思決定の質を高めます。データ構造とガバナンスを整え、全社でデータを有効活用できる基盤を作ることが鍵です。 - 変革の浸透と現場定着への取り組み（チェンジマネジメント）
技術を導入するだけでは不十分で、それを使いこなすための教育やプロセス改善も同時に進める必要があります。導入前から現場の声を聞き、試作・テスト・改善を重ねることが大切です。
「単発の施策」ではなく、「領域全体」を変える
多くの企業が犯しがちなミスは、「一部だけ」デジタル化することです。たとえばチャットボットや申込フォームだけを導入するケース。しかし、そうした個別の施策だけでは全体最適にはつながりません。
効果を最大化するには、「業務領域（ドメイン）全体」を変革する視点が重要です。
例えば、銀行口座開設プロセスを改善したいなら、申込フォームだけでなく、本人確認、社内承認フロー、書類管理、アフターフォローまですべてが一つの流れとして設計されるべきです。
アジア・タイでの実例紹介
以下は、アジア（特にタイ）の企業で実際に行われたデジタル変革の一例です：
- タイの銀行では、デジタルファクトリーを設立し、アプリ開発のサイクルを6か月から6週間に短縮。
- ラヨーンの製造業では、IoTとERPを統合し、機械の稼働停止（ダウンタイム）を25%以上削減。
- 保険会社ではAIを活用して保険金請求の処理を自動化し、3日かかっていた審査が数時間で完了。
最後に：目指すべきは「技術の導入」ではなく「デジタル企業への進化」
本質的な目標は「新しい技術を導入すること」ではなく、企業として「デジタルである状態」を実現することです。
そのためには、経営層がリードし、組織の考え方、働き方、文化を見直す必要があります。
アジアの企業経営者、特にCEO・COO・CIO・サプライチェーン責任者・トランスフォーメーションリーダーの皆さまにとって、今こそがその第一歩を踏み出す絶好のタイミングです。